เทคนิคการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้เร็ว แรง และปลอดภัย
ในการขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นหากต้องการสร้างความเร็วและปลอดภัยนั้น มีเทคนิคมากมายที่จะช่วยให้การขับขี่นั้นรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ต่อให้รถแรงขนาดไหน หากเทคนิคที่ใช้ไม่ถูกต้องความเร็วก็จะลดลงแถมความปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุก็จะสูงขึ้นตาม วันนี้ทีมงาน Greatbiker เลยมีเทคนิคเล็กๆ น้อยในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาฝากเพื่อนๆ กันครับ
การเคลื่อนไหวบนเบาะนั่ง
สังเกตได้จากบรรดานักแข่งในสนาม การขับขี่แข่งขันจะใช้ความเร็วสูงเสมอ แต่ทำไมนักแข่งเทพๆ เหล่านั้นยังสามารถควบคุมรถได้ทั้งๆ ที่ความเร็วในโค้งเกือบๆ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคล็ดลับง่ายๆ คือการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของผู้ขับขี่ เป็นเหมือนกับการถ่ายเทน้ำหนักจากตรงกลางลงไปข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อให้ตัวรถนั้นเกิดองศาที่ปรับเปลี่ยนไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้ดูเผินๆ อาจจะต้องใช้ทักษะของผู้ขับขี่อยู่พอประมาณ แต่ถ้าผู้ขับขี่เข้าใจกลไกในระบบฟิสิกส์ และการถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถแล้วล่ะก็ การขยับที่ถูกจังหวะก็จะช่วยทำให้ตัวรถนั้นไปได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ต้องกระแทกก็เร็วได้
เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าการกระแทกคันเร่งหรือการเปิดคันเร่งแบบรวดเร็วนั้นจะช่วยส่งให้ตัวรถไปได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ความเข้าใจเหล่านี้ก็ไม่เชิงว่าผิดเสียทีเดียว แต่การกระแทกคันเร่งในแต่ล่ะครั้งนั้น ภาระจะตกไปอยู่กับผู้ขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์ เพราะเราจะต้องใช้พละในการควบคุมตัวรถที่มากกว่าปกติ ในรถบางรุ่นที่มีแรงบิดหนัก เมื่อรอบตีถึงแล้วแรงบิดจะส่งให้ล้อหน้าเกิดการยกตัว ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ต้องออกแรงกดตัวรถให้ติดกับพื้น เสี่ยงที่จะสูญเสียการควบคุมไม่พอ ยังเปลืองน้ำมันอีกต่างหาก เพราะการเปิดคันเร่งในแต่ล่ะครั้งก็หมายถึงการเปิดท่อส่งน้ำมันเข้าไปยังห้องเผาไหม้ ยิ่งเรากระแทกแรงขนาดไหน ตัวท่อก็จะเปิดกว้างเท่านั้น แบบนี้ เราค่อยๆ ปรับตัวเดินคันเร่งให้ Smooth เพื่อรักษาการทรงตัวดีกว่า ไปเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้วยังสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นน่าจะดีกว่าจริงไหมครับ
ยาง ใครคิดว่าไม่สำคัญ
เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป การเลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพของยางที่ใช้งานนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เพราะยางเป็นเพียงชิ้นส่วนเดียวในจำนวนนับร้อยชิ้นของรถมอเตอร์ไซค์ที่ยึดเกาะกับถนน หากเราเลือกประเภทของยางที่ไม่เหมาะสม หรือยางที่มีคุณภาพต่ำจนเกินไป หรือเสื่อมสภาพมาใช้งาน อาจจะไปได้เร็วในทางตรง แต่เจอโค้ง เพื่อนๆ จะกล้าเสี่ยงไหมล่ะครับ
รู้จักรถตัวเองให้ดีก่อน
หลายๆ คนที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่างยาวนาน แต่กลับไม่ทราบถึงรายละเอียดของรถที่ตัวเองขับขี่อยู่ รายละเอียดในที่นี้ไม่ใช่ขนาดเครื่องยนต์ แรงม้า หรืออะไรทั้งนั้น แต่มันคือ รายละเอียดในการขับขี่ เพื่อนๆ เข้าใจคันเร่งของรถตัวเองหรือไม่ องศาการเปิดขนาดนี้จะได้แรงขนาดไหน หรือเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าศูนย์ถ่วงรถตัวเองอยู่ตำแหน่งไหน มันอยู่ตรงหน้า ตรงกลาง หรือว่าค่อนมาทางท้ายรถกันนะ สิ่งนี้เป็นสิ่งพื้นฐานที่เพื่อนๆ จะต้องรู้ให้ได้ก่อนที่ขับขี่ด้วยความเร็ว เมื่อเราเข้าใจและรู้จักรถของเราเองแล้ว ความมั่นใจก็จะมาเอง และเราจะกล้ามากขึ้นที่จะเปิดคันเร่งต่อไป
ชิลด์หน้า ชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ส่งผลโดยตรง
ตามหลักพลศาสตร์แล้ว เมื่อวัตถุเคลื่นที่ด้วยความเร็วจะเกิดแรงต้านจากการปะทะกับอากาศ ซึ่งเจ้าชิ้นส่วน Wind Shield sing ที่เราเรียกติดปากกันว่า ชิลด์หน้ารถ นั้นจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนี้ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะคิดว่า เฮ้ยแค่ชิลด์หน้าเนี้ยนะ จะช่วยให้รถไปได้เร็วขึ้น คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ครับ “จริง” เพราะชิลด์หน้าแต่ล่ะอันแต่ล่ะรุ่นนั้น ช่วยในการป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่ปะทะโดยตรงกับลม ซึ่งชิลด์หน้าที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับตัวรถนั้นจะช่วยแหวกลมที่เราปะทะในยามขับขี่ให้ข้ามตัวรถไป เมื่อแรงต้านมีน้อย การเคลื่อนที่ก็จะเคลื่อนที่ได้ไวขึ้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ก็อยู่ที่การออกแบบของชิลด์แต่ล่ะอันด้วย เพราะบางชิ้นกี่ออกแบบก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวรถเร็วขึ้น แต่ช่วยป้องกันวัตถุไม่พึ่งประสงค์และลดภาระของผู้ขับขี่นั่นเอง
ทัศนคติที่ดีในการขับขี่
ตรงนี้ขอบอกก่อนเลยว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคล ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราจะขี่เร็วไปเพื่ออะไรกัน หลายๆ คนอาจจะมองว่าเพื่อความสะใจ หรือต้องการสิ่งเร้าให้รู้สึกถึงความพุ่งพลาญของอดินาลีนในร่างกาย ซึ่งคำตอบเหล่านี้ไม่มีผิดไม่มีถูกอยู่แล้วครับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือเราเลือกใช้การขับขี่แบบนี้ในสถานการณ์ใดมากกว่า การขับขี่ในเมืองจำเป็นขนาดไหนที่เราจะต้องไปให้ไวที่สุด และมันปลอดภัยกับตัวเราและเพื่อนที่ร่วมใช้ถนนหรือไม่ ต้องตอบตัวเองให้ได้กันนะครับ
เรียนรู้และฝึกฝน
ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่มีค่าอะไรเลย หากเราจำเป็นเพียงทฤษฎี แต่ไม่มีการนำไปใช้งานหรือปฏิบัติจริง คนที่ข้อมูลในหัวมีเต็มไปหมดแต่ขาดซึ่งการลงสนามจริงมันก็ไม่ต่างอะไรกับมือใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ อย่าลืมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และหาช่วงเวลาในการฝึกฝนตัวเอง ขอให้เพื่อนๆ ทุกๆ คนขับขี่ด้วยความปลอดภัยและสนุกสนานไปกับสิ่งเหล่านี้ครับ
ขอบคุณบทความจาก: greatbiker