ขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านมือถือ 2565 เสร็จไวภายใน 1 ชั่วโมง
เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของ โควิด-19 ทำให้การไปทำธุระต่าง ๆ นอกสถานที่ รวมถึงการเดินทางไปต่ออายุใบขับขี่กลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเกิดความกังวลว่าอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะสามารถต่อได้แล้ว แต่การต่อใบขับขี่นั้น หลายคนอาจจะคิดว่าไม่สามารถต่อผ่านออนไลน์ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าขณะนี้ ทางกรมการขนส่งทางบกได้ออกมาตรการการต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อช่วยในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคนี้ โดยผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่นั้น สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้แล้ว ผ่านระบบ DLT e-learning เพียงแค่กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และชมวิดีโออบรมความรู้ ตามขั้นตอน
ซึ่งการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้น จะสามารถเข้าอบรมได้เฉพาะผู้ที่มีใบขับขี่ และเป็นการต่ออายุใบขับขี่เท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่ (ที่ไม่ใช่การต่ออายุ) จะไม่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ แต่ต้องเข้าไปอบรมที่สำนักงานเท่านั้น
ขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
เพื่อให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์กับทางกรมการขนส่งทางบกได้สะดวกมากที่สุด เราได้รวบรวมขั้นตอนและรายละเอียดในการเข้าอบรมออนไลน์มาเพื่อคุณตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับการเข้าอบรมออนไลน์เพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์นั้น คุณสามารถเข้าระบบการอบรม DLT e-learning ผ่านอุปกรณ์ทุกรูปแบบที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ / สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต
รายละเอียดการอบรมบนระบบ DLT e-learning
- 1. เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อทำการลงทะเบียนเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เป็นเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกสำหรับให้ผู้ที่ต้องการเข้าอบรมออนไลน์ โดยระบบการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถนั้น มีให้เลือกลงทะเบียนสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อทำการต่อทะเบียน ซึ่งผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม
- 2. ระบุข้อมูลให้ครบถ้วนสำหรับข้อมูลในส่วนนี้ กรมการขนส่งทางบก จำเป็นจะต้องขอรายละเอียดที่ครบถ้วน ทั้งเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงวันเดือนปีเกิด เพื่อทำการยืนยันรายละเอียดของผู้เข้าอบรม
- 3. เลือกการอบรม ตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุในการอบรมใบอนุญาตขับรถ มีให้เลือก 3 ประเภทด้วยกัน ทั้งใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) โดยมีระยะเวลาในการอบรม 1 ชั่วโมง ใบอนุญาตขับรถขนส่ง โดยมีระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ มีระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง ซึ่งการเลือกอบรมนั้นจำเป็นที่จะต้องเลือกให้ถูกต้องกับประเภทการอบรมที่ต้องการ
- 4. เลือกหัวข้อ “แบบทดสอบก่อนอบรม”ก่อนการอบรมใบขับขี่นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการทำแบบทดสอบก่อนอบรม เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบความรู้พื้นฐานของตนเองว่ามีความรู้เกี่ยวกับการขับขี่และการใช้รถใช้ถนนอย่างไร
- 5. ตอบคำถามแบบทดสอบก่อนอบรมการทำแบบทดสอบก่อนอบรม จะมีคำถามและมีช้อยส์คำตอบให้เลือกข้อที่ถูกที่สุด ซึ่งคำถามจากแบบทดสอบก่อนอบรมจะมีจำนวน 3 ข้อ เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จให้ กดส่งข้อสอบ และกดไปขั้นตอนต่อไป
- 6. ดูวีดีโอการอบรมการขับรถให้จบหลังจากการทำแบบทดสอบ ให้ดูวิดีโอการอบรมการขับรถผ่านระบบออนไลน์จนครบจำนวนชั่วโมง หากรับชมวิดีโอไม่จบ หรือปิดหน้าเว็บไซต์ก่อน หรือไม่ได้กรอกข้อมูลยืนยัน จำเป็นที่จะต้องเริ่มรับชมวิดีโอใหม่ตั้งแต่ต้น
- 7. ตอบคำถามแบบทดสอบหลังอบรมเมื่อดูวิดีโอการอบรมการขับรถผ่านระบบออนไลน์จนครบแล้ว ให้ตอบแบบทดสองหลังอบรมให้ครบทุกข้อ หลังจากนั้น ระบบจะทำการประมวลผลว่าผ่านการทดสอบหรือไม่
- 8. บันทึกหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานเมื่อผ่านการทดสอบแล้ว ระบบจะแจ้งผ่านการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขึ้นมา หลังจากนั้นให้บันทึกหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการทำใบขับขี่ใบใหม่
ใบขับขี่รูปแบบไหนที่สามารถต่อออนไลน์ได้
สำหรับการต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้น จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับชั่วโมงการอบรม เนื่องจากถ้าหากอบรมไม่ครบจำนวนชั่วโมง อาจจะทำให้คุณไม่สามารถทำใบขับขี่ใหม่ได้ ซึ่งรายละเอียดของการเข้าอบรมนั้น มีข้อมูลดังต่อไปนี้
- ใบขับขี่ส่วนบุคคลแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี (ต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน) อบรม 1 ชั่วโมง
- ใบขับขี่ พรบ.ขนส่ง (ต่อล่วงหน้าได้ 6 เดือน) อบรม 2 ชั่วโมง
- ใบขับขี่สาธารณะ (ต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน) อบรม 3 ชั่วโมง
หมายเหตุ: ผลการอบรมการต่ออายุใบอนุญาตขับรถมีอายุ 90 วันนับจากวันที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
หลังจากอบรมแล้วต้องทำอย่างไรต่อ?
เพื่อให้ไม่พลาดกับการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ทั้งการจองคิวต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์และเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อม เราได้รวบรวมรายละเอียดและข้อมูลต่างเกี่ยวกับการทำใบขับขี่มาให้คุณแล้ว
- เพื่อความสะดวกให้จองคิวต่อใบขับขี่ทางออนไลน์
- เตรียมเอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่ให้พร้อม
- เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกตามวันนัด และแสดงเอกสารการอบรมและการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถทำเรื่องต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปเข้าอบรมที่สำนักงาน ซึ่งการอบรมนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกอบรมตรงกับประเภทที่ต้องการ และอบรมให้ครบตามกำหนดเวลา เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถต่ออายุได้ง่าย ๆ หมดกังวลเรื่องใบขับขี่หมดอายุไปได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก