4 เทคนิคการเข้าโค้งของการขี่ Bigbike

1.ลดความเร็ว (ทางตรง) 2.เบรก (ทางตรง) 3.ลดเกียร์ (ทางตรง) 4.คลายคลัตช์ ลดเกียร์ เปลี่ยนสายตามองด้านในของโค้งจนถึงทางออก การเข้าโค้ง ของรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บรรดาเหล่าไบค์เกอร์หรือสิงห์นักบิดปรารถนาที่จะทำให้ได้อย่างดีและปลอดภัย หลายๆครั้งที่คุณอาจจะเห็นว่าการบรรดานักบิดที่ช่ำชองนั้นเข้าโค้งได้อย่างงดงาม มอเตอร์ไซค์เอียงกับทางโค้งได้แม้ว่าจะมาด้วยความเร็วขนาดไหนก็ตาม แต่หากว่าคุณต้องการเข้าโค้งอย่างมืออาชีพ ลองอ่านบทความนี้ก่อนรับรองว่าแม้คุณจะเริ่มต้น แต่หากฝึกฝนบ่อยๆก็จะทำได้ดีอย่างแน่นอน การเข้าโค้งแบ่งได้ออกทั้งหมดเป็นสี่แบบ ดังนี้ Lean-out สำหรับการเข้าโค้งในลักษณะ Lean-out ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์จำเป็นจะต้องถ่วงน้ำหนักของตัวคุณเองไปทางด้านนอกของโค้งมากกว่าด้านในโค้ง สำหรับตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปที่ด้านในของโค้งเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมากแล้วสิงห์นักบิดมักจะใช้การเข้าโค้งลักษณะนี้ในมอเตอร์ไซค์วิบาก ในโค้งแคบ นั่นก็เพราะว่าผู้ที่ขับขี่จะคอนโทรลรถได้แม้ว่ารถไถลก็ตามที Lean-with สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้ บรรดาสิงห์นักบิดจะต้องหลอมรวมตนเองเป็นส่วนหนึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ โดยตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปในองศาที่เท่ากันกับผู้ขับขี่ โดยเท้าทั้งสองข้างของผู้ขับขี่จะอยู่ที่พักเท้า หัวเข่าหรือก็จะแนบชิดกับถังน้ำมัน ศีรษะของผู้ขับขี่ตั้งตรงอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อช่วยให้สมดุลร่างกายของสิงห์นักบิดและตัวรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเหมาะสม สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โค้งที่มาด้วยความเร็วปานกลาง และเหมาะสำหรับสิงห์นักบิดมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าคุณจะควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย และแม้แต่การเปลี่ยนทิศทางรถก็ทำได้อย่างดีมีประสิทธิภาพจนคุณต้องประทับใจ Lean-in สำหรับการขับขี่มอเตอร์ไซค์เข้าโค้งแบบนี้ สิงห์นักบิดจะต้องถ่วงน้ำหนักของตนเองไปทางด้านในโค้ง โดยลำตัวของผู้ขับขี่จะเอียงมากกว่าตัวรถมอเตอร์ไซค์สักเล็กน้อย ซึ่งการเข้าโค้งในลักษณะนี้ จะเหมาะสมกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์มายังโค้งด้วยความเร็วสูง และต้องการความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของการเข้าโค้งแบบ Lean-out คือผู้ขับขี่จะคอนโทรลรถได้น้อยกว่า Lean-with Hang-on สำหรับการเข้าโค้งด้วยวิธีนี้ สิงห์นักบิดมอเตอร์ไซค์จะต้องถ่วงน้ำหนักของตนเองไปด้านในโค้งอย่างมาก อาจจะเปรียบได้ว่าเป็นการโหนรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังขับเลยทีเดียว…

กลับรถอย่างไร? ให้ปลอดภัย

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้เสมอ หากเราประมาทและขาดความระมัดระวังในการขับรถยิ่งการ “กลับรถ” หรือยูเทิร์นรถ 1. ก่อนยูเทิร์นกลับรถ จะต้องเปิดไฟเลี้ยวให้เป็นนิสัยเพื่อบอกให้รถคันหลังรู้ว่าเรากำลังจะยูเทิร์น 2. เมื่อถึงจุดยูเทิร์นกลับรถให้ชะลอรถมองทางตรง ที่กำลังสวนมากะระยะห่างจากรถทางตรงไม่ต่ำกว่า 100 เมตร แต่ถ้าหากรถทางตรงมาเร็วก็ให้รถทางตรงผ่านไปก่อนแล้วจึงยูเทิร์นกลับรถ 3. เมื่อยูเทิร์นกลับรถแล้วให้เร่งความเร็วและรีบตั้งลำ รีบเข้าเลนอย่าขับรถแช่เลน เพราะถ้าขับช้าอาจจะทำให้รถทางตรงต้องเบรกกระทันหันและรถที่ยูเทิร์นกลับรถตามหลังมาอาจจะชนท้ายรถเราได้ 4. ยูเทิร์นกลับรถถ้ารถเล็กอย่าตีวงเกินเลนที่ 2 แต่ถ้ารถใหญ่ให้ดีวงกว้างกินเลนที่ 2 ได้ แต่ไม่ว่าจะเลนไหนก็ต้องพยายามมองรถทางตรงให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีรถหรือระยะห่างในการกลับรถนั้นปลอดภัยพอ

ยางแก้มเตี้ย ยางแก้มสูง ดี/ด้อย ต่างกันยังไง?

สำหรับตัวเลขความสูงของแก้มยาง ก็จะมีการระบุไว้ที่เดียวกับขนาดหน้ายาง หรือถ้าระบุให้ชัดขึ้นอีกนิดก็คือ มันจะเป็นเลขหลักสิบที่อยู่ด้านหลังสัญลักษณ์ “/” อีกที่หนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น 190/ “55” -17 ที่เป็นยางแก้มสูง หรือ 190/ “50” -17 ที่เป็นยางแก้มเตี้ย เป็นต้น ซึ่งเลขตรงนี้ไม่ได้มีหน่วยเป็น มิลลิเมตร เหมือนเลขหลักร้อยด้านหน้าที่หมายถึงความกว้างของหน้ายาง แต่มันคือเลขเปอร์เซ็นความสูงของแก้มยาง ที่เราต้องเอาเลขความกว้างของหน้ายางมาตั้งคำนวนก่อน ถึงจะได้เลขความสูงของแก้มยาง ที่แท้จริงในหน่วยมิลลิเมตร (ถ้าจะเปรียบเป็นการวัดด้วยไม้บรรทัด ก็คือการวัดจากขอบยางด้านในถึงจุดนอกสุดของหน้ายาง เป็นแนวเส้นตรงนะครับ ไม่ใช่วาดตามแนวยางไป) กล่าวคือ หากยางที่เราดูอยู่ ถูกระบุเลขไซส์ไว้ว่า 190/50-17 ความสูงของแก้มยางเส้นนี้ ก็จะอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็น ของ 190 มิลลิเมตร หรือก็คือ 95 มิลลิเมตร ขณะที่หากยางอีกเส้นถูกระบุเลขไซส์ไว้ว่า 190/55-17 ความสูงของแก้มยางเส้นนี้ ก็จะอยู่ที่ 55 เปอร์เซ็น ของ 190 มิลลิเมตร 104.5 มิลลิเมตร ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าแม้ยาง 2…

อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565 ผ่านระบบ DLT e-learning เสร็จไวภายใน 1 ชั่วโมง

ขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านมือถือ 2565 เสร็จไวภายใน 1 ชั่วโมง เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของ โควิด-19 ทำให้การไปทำธุระต่าง ๆ นอกสถานที่ รวมถึงการเดินทางไปต่ออายุใบขับขี่กลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเกิดความกังวลว่าอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะสามารถต่อได้แล้ว แต่การต่อใบขับขี่นั้น หลายคนอาจจะคิดว่าไม่สามารถต่อผ่านออนไลน์ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าขณะนี้ ทางกรมการขนส่งทางบกได้ออกมาตรการการต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อช่วยในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคนี้ โดยผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่นั้น สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้แล้ว ผ่านระบบ DLT e-learning เพียงแค่กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และชมวิดีโออบรมความรู้ ตามขั้นตอน ซึ่งการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้น จะสามารถเข้าอบรมได้เฉพาะผู้ที่มีใบขับขี่ และเป็นการต่ออายุใบขับขี่เท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่ (ที่ไม่ใช่การต่ออายุ) จะไม่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ แต่ต้องเข้าไปอบรมที่สำนักงานเท่านั้น ขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์กับทางกรมการขนส่งทางบกได้สะดวกมากที่สุด เราได้รวบรวมขั้นตอนและรายละเอียดในการเข้าอบรมออนไลน์มาเพื่อคุณตั้งแต่ต้นจนจบ สำหรับการเข้าอบรมออนไลน์เพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์นั้น คุณสามารถเข้าระบบการอบรม DLT e-learning ผ่านอุปกรณ์ทุกรูปแบบที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ / สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต รายละเอียดการอบรมบนระบบ DLT e-learning 1. เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อทำการลงทะเบียนเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เป็นเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกสำหรับให้ผู้ที่ต้องการเข้าอบรมออนไลน์ โดยระบบการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถนั้น มีให้เลือกลงทะเบียนสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อทำการต่อทะเบียน ซึ่งผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม…

อัปเดตเทรนด์ 6 ไอเทมสายมู ที่กำลังฮิตในยุคนี้

ไอเทมต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมโชค เสริมดวง ให้ชีวิตเฮง ๆ บอกเลยว่าแต่ละไอเทมสามารถหาได้ง่ายๆ รอบตัว มีทั้งไอเทมที่สามารถซื้อมาติดตัวเอาไว้ได้ หรือไอเทมที่ช่วยเป็นที่พึ่งทางใจนั่นเอง กำไลข้อมือ จัดให้เป็นอันดับต้นๆ ในยุคนี้ที่สายมูต้องไปตำ นั่นก็คือ กำไลข้อมือนั่นเอง เพราะเป็นเครื่องประดับที่พกง่าย ใส่ง่าย แถมยังเสริมเรื่องแฟชั่นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกปัดหิ หรือเป็นเชือกก็เลือกได้ตามใจชอบ หินแต่ละประเภทก็จะมีหลากหลายกันไป ปลุกความขลังตามเทพเจ้าองค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การงาน หรือความรัก ก็มีทั้งหมด วอลเปเปอร์โทรศัพท์ มาต่อกันที่ไอเทมที่หาง่ายมาก นั่นก็คือ วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ซึ่งหน้าจอโทรศัพท์ของเราก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราต้องเห็น ต้องมองทุกวัน การตั้งค่าหน้าจอให้เป็นรูปเสริมดวงในด้านต่างๆ ก็สามารถเป็นที่พึ่งทางใจได้ง่ายๆ อย่างเว็บไซต์หรือเพจหลายๆ เพจใน Facebook ก็มีการแจกวอลเปเปอร์ต่างๆ เช่น วอลเปเปอร์รูปไพ่ tarot หรือวอลเปเปอร์รูปสีมงคลประจำวันเกิด มีหลากหลายแบบให้เราได้เลือกใช้เลย ชื่อไลน์ (Line) สำหรับไอเทมต่อมา อาจจะใหม่สำหรับบางคน เพราะยังไม่ได้มีการใช้กันอย่างทั่วถึงนัก แต่หลายเสียงแอบกระซิบมาว่าเวิร์คไม่แพ้ไอเทมอื่นๆ เลย นั่นก็คือการตั้งชื่อไลน์นั่นเอง เพราะศาสตร์ของการตั้งชื่อ ก็ถือว่าเสริมดวงได้เช่นกัน ล่าสุดสมัยนี้เราสามารถหาชื่อไลน์ที่จะช่วยเพิ่มโชคลาภของเราได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ…

5 Generations ความต่างที่คุณต้องรู้

  ในแต่ละยุคสมัย โลกได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จึงไม่แปลกที่ผู้คนหล่านั้นจะมีพฤติกรรมและ การดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป มารู้จักกับ 5 Generations ความต่างที่คุณต้องรู้ ความแตกต่างนี้สามารถนำไปเป็แนวทาง ในการรู้จักคนแต่ละยุค เพื่อช่วยในการบริหารจัดการหรือปรับตัวเข้าหาคนเหล่านั้นได้อย่างเข้าใจมากขึ้น และสามารถนำไป ปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเราเองได้ 1. Baby Boomer (พ.ศ. 2489 – 2507) คน Gen-B ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นรอง และงานเป็นหลัก   ข้อดี – จงรักภักดีต่อองค์กร – ทุ่มเทกับการทำงาน – มีความอดทนสูงมาก   ข้อเสีย – บ้างานจนเกินไป – ไม่ชอบพัฒนาตนเอง 2. Generation X (พ.ศ. 2508-2522) คน Gen-X ให้ความสำคัญกับความสมดุลของการทำงานและการใช้ชีวิต   ข้อดี – มีความอดทน – เชื่อมั่นในตนเองสูง – กล้าคิด…

“ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในแบรนด์รถจักรยานยนต์ของประเทศไทยที่กล้ารับประกันคุณภาพสินค้าทั้งคันตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 500 ซีซี ที่ได้ลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้าหลังจากวันที่ซื้อสินค้า จะได้สิทธิ์รับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนเป็นเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน ทั้งนี้ต้องนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่บริษัทฯกำหนด โดยสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2565 นอกจากนี้ยังยกระดับมาตรฐานสู่การบริการระดับโปรแคร์ พร้อมบริการหลังการขายให้รถจักรยานยนต์พร้อมใช้งานตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด และเพิ่มความมั่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมเพิ่มบริการ Road Side Service “มากกว่า…ด้วยความอุ่นใจ บริการคุณ ทุกช่วงเวลาฉุกเฉิน” ในกรณีที่รถเกิดปัญหาฉุกเฉินไม่สามารถขับขี่ต่อได้ โดยลูกค้ายามาฮ่าทุกคันจะได้รับสิทธิ์การบริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 12,000 กม. เพียงติดต่อที่ Yamaha Call Center : 0-2263-9999 โดยมีรายละเอียดการรับประกันดังนี้ ระยะที่บริษัทฯ กำหนด…

การขับรถมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืนให้ปลอดภัย

การขับรถมอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยในช่วงเวลากลางคืนจำเป็นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษช่วยให้ลดปัญหาระหว่างการเดินทางหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ สำหรับครั้งนี้เรามีเคล็ดลับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ปลอดภัยตลอดเส้นทางการเดินรถมาฝาก เคล็ดลับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืนให้ปลอดภัย สามารถทำได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้ -หากรถของเราสามารถปรับความสว่างหน้าจอแสดงผลของรถได้ควรปรับให้เหมาะสม เพราะความสว่างที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ จะทำให้ทัศนวิสัยของการขับรถที่ลดลง -ควรเลือกใช้ไฟหน้ารถอย่างเหมาะสม เพราะเรารู้จักการเลือกใช้ไฟสูงในเมื่อยามจำเป็น การเปลี่ยนไฟต่ำขับขี่ในชุมชน ส่วนความสว่างของแสงไปควรเลือกค่าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบสายตาต่อผู้ใช้รถสวนทางกับเรา -การรักษาความสะอาดของสัญญาณไฟต่าง ๆ ของรถเพื่อให้มีความสว่างทำให้ผู้อื่นเห็นได้ชัดเจน โดยทำความสะอาดทั้งไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟหน้า -ควรทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มาก ลดความเร็ว การขับจี้ท้ายคันหน้ามีความเสี่ยงต่อการเกิดการชนท้ายได้ หากเป็นช่วงกลางคืนยิ่งเพิ่มความระวังเพราะปฏิกิริยาการตอบสนองของผู้ขับประมาณ 90 ขึ้นอยู่กับการมองเห็น -การขับขี่ที่ดีควรที่จะรู้จักการระวังสัตว์บนท้องถนนเพราะปัญหาเรื่องการขับขี่แล้วพบว่าบ่อยครั้งที่สุนัขมักจะตัดหน้าเราแล้วหักหลบเกิดอุบัติเหตุเอาได้ง่ายมาก หรือบางครั้งก็เสียชีวิต -ไม่ควรเลือกเวลาของการเดินทางหรือการใช้รถในขณะที่ร่างกายไม่พร้อมหรือความสามารถในการขับขี่ลดลงจากการเจ็บป่วย -ไม่ควรเลือกเดินทางในขณะที่ร่างกายพักผ่อนน้อย การเดินทางไม่ควรขับรถยนต์ให้นานกว่า 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ควรหยุดพักทุก ๆ 2 ชั่วโมง เป็นเวลาที่ควรจะได้รับการยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายบ้างเพื่อให้ร่างกายได้เปลี่ยนอริยบถบ้าง

5 สิ่งของต้องมีเตรียมลุย..ฝุ่น..

หากต้องการจะออกทริปในสไตล์ “ลุย” เข้าป่าหรือข้ามแม่น้ำลำธาร นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมของรถคู่ใจแล้ว อุปกรณ์การขับขี่เฉพาะกิจการลุยนับว่าจำเป็นไม่แพ้กัน มาดู 5 อย่างของต้องมีเมื่อจะออกทริปแบบขาลุยคลุกฝุ่น 1.หมวกกันน็อค – Helmet หมวกกันน็อคสำหรับขาลุยในสไตล์วิบากหรือ Adventure นับว่าจำเป็นมาก ควรใช้รุ่นที่ทำมาเพื่อขับขี่ในทางวิบาก กับออปชั่นต่างๆ ของหมวกที่สะดวก ปลอดภัยและมีน้ำหนักเบา 2.แว่นกันฝุ่น – Goggles แว่นตากันฝุ่น กันโคลน กันแมลง กันทุกสิ่งที่จะกระเด็นมาปะทะใบหน้าของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะโคลน เพื่อความปลอดภัยทัศนวิสัย และยังกันลมได้ดีอีกด้วย เพราะส่วมมากมอเตอร์ไซค์สไตล์วิบากมักไม่มีชิลด์หน้า แว่นกันฝุ่นจึงสำคัญมากๆ 3.ถุงมือ – Gloves ถุงมือใส่เพื่อป้องกันทั้งอุบัติเหตุจากกิ่งไม้ที่ขับขี่ผ่านในป่า หรือเพื่อความกระชับในการขับขี่เมื่อต้องผ่านเส้นทางโหดๆ ยิ่งใช้ถุงมือสำหรับการขับขี่ Off-Road หรือวิบากยิ่งดี เพราะจะเป็นถุงมือแบบที่ไม่มีการ์ดแข็งมากนัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้รู้สึกคล่องตัวและสะดวกในการขับขี่ตามอิริยาบถต่างๆ ของลีลาในการลุยทางฝุ่น 4.ชุดสำหรับโมโตครอส – Jersey/Pant ชุดสำหรับขี่ทางฝุ่นหรือโมโตครอส ควรเป็นเนื้อผ้าบางเบาให้สัมผัสนุ่มสบาย ช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกคล่องตัว ทั้งการยืน เอี้ยวตัวเพื่อเลี้ยวโค้ง เพราะจะคล่องตัวกมากกว่าการใส่ชุดขับขี่แบบปกติ 5.รองเท้า – Boots รองเท้าสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์ จะเป็นแบบครึ่งข้อหรือเต็มข้อก็ได้…

5 Tricks ควบคุมเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนเกินไป

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือสายลุย เชื่อว่าต้องเคยเจอปัญหาเครื่องยนต์ร้อนตอนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บ้างแน่นอน อาการแบบนี้นอกจากสุ่มเสี่ยงกับความปลอดภัยแล้ว หากปล่อยไว้นานยังอาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ของเราได้      เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว เรามีวิธีดูแลเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ไม่ให้ร้อนเกินไปที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ 5 ข้อต่อไปนี้ ควรจอดพักรถ เมื่อเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงานหนักและต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะเกิดปัญหาเครื่องยนต์ร้อนได้ วิธีที่ง่ายและเบสิกที่สุดที่คุณทำได้และควรทำเมื่อรู้สึกว่ามอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ร้อนขณะขี่อยู่บนท้องถนน นั่นคือ การหาที่จอดซึ่งอาจจะเป็นจุดพักรถตามปั๊มน้ำมันหรือจอดริมถนนที่สามารถจอดได้ ให้เครื่องยนต์ (และคุณ) ได้พักสัก 10-20 นาที หรือจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นลงแล้วค่อยออกเดินทางต่อ ดับเครื่องเมื่อรถติดนานๆ ในกรณีที่คุณรีบ แน่นอนว่าการแวะพักตามที่บอกไปในข้อแรกคงจะไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้ากังวลกับเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ที่ร้อนขึ้นจนคุณรู้สึกได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือ ดับเครื่องยนต์ระหว่างที่รถจอดติดอยู่บนถนน ข้อนี้แนะนำเพิ่มเติมว่า ให้ดูความเหมาะสมและความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่บิดคันเร่งแรง การบิดคันเร่งแรงๆ เพื่อเร่งความเร็วรถมอเตอร์ไซค์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก และตามมาด้วยอาการเครื่องยนต์ร้อน ถ้าไม่ได้รีบจนเกินไป ลองลดความซิ่งลงมาแล้วขี่ด้วยความเร็วคงที่และเหมาะสม เพื่อเป็นการดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนเกินไป ดูแลหม้อน้ำและระบบหล่อเย็น หม้อน้ำและระบบหล่อเย็นคือหัวใจสำคัญของการดูแลอุณหภูมิเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ โดยหม้อน้ำจะทำหน้าที่ควบคุมระบบระบายความร้อนเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป สิ่งที่ควรทำเพื่อให้หม้อน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การดูแลให้หม้อน้ำอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีรอยแตกร้าวหรือรูรั่ว ทำความสะอาดเมื่อพบคราบสกปรก ดังนั้น การตรวจเช็กและเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นเป็นประจำก็ช่วยให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เช่นกัน ดูแลน้ำมันเครื่อง เมื่อเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงาน ชิ้นส่วนต่างๆ จะเกิดการเสียดสี และทำให้เกิดความร้อนภายในขึ้น หน้าที่อย่างหนึ่งของน้ำมันเครื่องก็คือช่วยลดการเสียดสีที่ทำให้เกิดความร้อนนี้ การดูแลน้ำมันเครื่องมีอย่างน้อย 2…